Flipped Classroom วิธีการเรียนแนวใหม่ที่ฉีกตำราการสอนแบบเดิมๆ เป็นการเรียนแบบ "กลับหัวกลับหาง" หรือ " พลิกกลับ" โดยเป็นการจัดการเรียนการสอนที่สวนทางกับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยให้ผู้เรียนศึกษาหาความรู้ผ่านอินเตอร์เน็ตหรือผ่านช่องทางอื่น ๆ โดยจะทำนอกเหนือจากเวลาเรียนในห้องเรียน ในส่วนของเวลาในห้องเรียนจะเป็นการจัดกิจกรรมที่เสริมสร้างความสามารถของผู้เรียนแต่ละคนที่แตกต่างกันไป และนำการบ้านมาทำในห้องเรียนแทนการทำจากที่บ้าน
วิธีนี้จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ผ่านการสอนของผู้สอนทางวิดีโอได้ ทั้งยังสามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลา สะดวกเมื่อไหร่ก็สามารถเปิดดูได้ทันทีไม่ต้องรอใครหรือหากอยากดูซ้ำก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องไปรบกวนเวลาของผู้เรียนคนอื่นเหมือนการเรียนในห้องเรียน หากมีข้อสงสัยหรือปัญหาที่ต้องการสอบถามไม่ว่าจะเป็นทั้งต่อเพื่อนร่วมชั้นหรือผู้สอน ก็สามารถสอบถามผ่านทางโปรแกรมต่าง ๆ ทางออนไลน์ และในขณะเดียวกันภายในห้องเรียน ผู้สอนก็ให้นักเรียนทำงานที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับวิดีโอที่ให้ดู เพื่อทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ผ่านกิจกรรมที่จัดขึ้น โดยผู้สอนจะเป็นผู้ให้คำแนะนำเมื่อเด็กสงสัยหรือมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้รูปแบบการเรียนแบบ Flipped Classroom
รูปแบบการเรียนแบบ Flipped Classroom ไม่ได้เป็นเรื่องที่ใหม่ แต่เป็นวิธีการสอนที่ใช้มานานหลายแล้ว เช่น การมอบหมายให้ผู้เรียนได้อ่านหนังสือนอกเวลา และเมื่อถึงคลาสเรียน ผู้สอนได้เปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็นถึงเนื้อหาในหนังสือนั้นเอง แต่ผลการทำงานของ FLIP ดีขึ้น และได้รับความนิยมมากขึ้นจากระบบ IT ประสิทธิภาพของเนื้อหาและการสื่อสารระหว่างผู้สอนและผู้เรียนในโลกออนไลน์จึงดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด
องค์ประกอบหลักของ F-L-I-P ประกอบไปด้วย
F-Flexible Environment : คือมีความยืดหยุ่นของสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ ทั้งรูปแบบการเรียน การศึกษาอิสระ ผลการดำเนินงานแลการประเมินผลก็ต้องมีความยืดหยุ่นและ เหมาะสม
L-Learing Culture : ยกระดับจากวัฒนธรรมการเรียนรู้ในรูปแบบครูเป็นศูนย์กลางแบบดั่งเดิม เปลี่ยนเป็นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ในเชิงลึกมากขึ้น
I-Intentional Content : ผู้สอนต้องทำการบ้านมาอย่างดีเยี่ยม เพื่อที่จะศึกษาและเตรียมเนื้อหา รวมถึงการเตรียมการสอนทีเหมาะสมกับเนื้อหานั้นๆ และการให้ผู้เรียนได้ไปค้นคว้าเพิ่มเติมด้วยตนเอง
P-Professional Educator : ผู้สอนต้องมีความเป็นมืออาชีพมาก เพราะแบบการเรียนจะเน้นการเรียนรู้ของแต่ลบุคคล และการเพิ่มสนทนาให้คำแนะนำกับผู้เรียนอย่างใกล้ชิด ดังนั้นผู้สอนจำเป็นต้องรู้แลเข้าใจถึงเนื้อหาแลวิธีการที่ใช้สอนเป็นอย่างดีจริงๆ
หลักการของ Flipped Classroom ใช้เทคโนโลยีทางการศึกษา รวมกับการจัดกิจกรรมภายในห้องเรียน เนื่องจากการใช้เวลาในห้องเรียนในการจัดการเรียนการสอน การจะให้ผู้เรียนแต่ละคนสามารถเข้าใจเนื้อหาต่าง ๆได้ทุกคนนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เพราะแต่ละคนก็มีความสามารถและความถนัดที่แตกต่างกัน ระยะเวลาที่ใช้ในการทำความเข้าใจกับเนื้อหาก็แตกต่างกันเช่นกัน เวลาในห้องเรียนเพียงอย่างนั้นอาจทำให้ไม่เพียงพอ ดังนั้นการศึกษาความรู้จากวิดีโอการสอน
การสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน
การสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) เป็นการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มีแนวการศึกษาที่น่าสนใจ และนักวิชาการรวมถึงครูอาจารย์มากมายนำรูปแบบนี้มาใช้ในการเรียนการสอน มีรูปแบบที่ผสมผสานการนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาการสอนในห้องเรียนให้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ ทำให้ผู้สอนมีเวลาพูดคุยและเอาใจใส่นักเรียนมากขึ้น แทนที่ในการใช้เวลาไปกับการสอนหนังสือเพียงอย่างเดียว ห้องเรียนกลับด้าน มีรูปแบบที่ใกล้เคียงกับการเรียนการสอนออนไลน์ในช่วงที่ผ่านมาซึ่งมีข้อสังเกตที่น่าสนใจ คือ
1. ผู้เรียนเรียนรู้และค้นคว้าด้วยตนเองผ่านวิดีโอการสอนแบบออนไลน์จากที่บ้าน สามารถพูดคุยกับนักเรียนคนอื่น หรือถามคำถามผู้สอนผ่านระบบออนไลน์
2. เปลี่ยนบ้านเป็นห้องเรียนกิจกรรม ผู้เรียนและผู้สอนมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน พูดคุย แสดงความคิดเห็น ทำงานกลุ่ม สอบถาม ทำกิจกรรมร่วมกัน ฯลฯ โดยผู้สอนมีหน้าที่กำกับดูแลนักเรียน ตอบคำถาม และทำให้บทสนทนาหรือกิจกรรมต่าง ๆ เป็นไปในทิศทางที่วางแผนไว้
ก่อนการสอน
1. วางแผน ออกแบบแผนการสอน โดยคิดโครงร่างผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ที่ต้องการเห็นให้ห้องเรียนกลับด้าน
2. บันทึก ผู้สอนบันทึกการสอนของตัวเองเป็นวิดีโอ โดยต้องมีการตรวจสอบและมั่นใจว่าเนื้อหาที่สอนไปนั้นมีความถูกต้อง เนื้อหาสาระที่สำคัญครบถ้วนสมบูรณ์
3. แชร์ ส่งวิดีโอการสอนให้ผู้เรียน โดยอธิบายว่า เนื้อหาที่ให้ดูนั้นจะนำมาพูดคุยหรือต่อยอดให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น หรือในกรณีที่ผู้เรียนในห้องเรียน
4. แลกเปลี่ยน เมื่อผู้เรียนได้ดูบทเรียนผ่านวิดีโอการสอนแล้ว พวกเขาก็พร้อมที่จะเรียนรู้เนื้อหาที่ยากและลึกกว่าเดิม
5. แบ่งกลุ่ม การเรียนรู้โดยการแบ่งกลุ่ม เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ได้ดีที่สุด เพราะว่าจะมีการพูดคุยกันภายในกลุ่ม การปรึกษากัน ทำให้สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายจากครูผู้สอนได้
6. รวมกลุ่มอีกครั้ง เรียกผู้เรียนมารวมกัน ให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มเสนอความคิดเห็นต่องานที่ตัวเองทำว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร โดยครูผู้สอนมีหน้าที่คอยแนะนำและถามคำถามต่าง ๆกับผู้เรียน
หลังจบการสอน
1. ทบทวน มีการตรวจสอบสิ่งที่สอนไป
2. ปรับแก้ เมื่อพบข้อบกพร่องของการจัดการเรียนการสอน ให้นำมาแก้ไขหรือพัฒนาให้ดีขึ้น
3. ทำซ้ำ ผู้สอนตรวจพบข้อบกพร่อง และนำมาแก้ไข ตามขั้นตอนเดิมยิ่งช่วยให้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อดี/ข้อเสียของ Flipped Classroom
ข้อดีของ Flipped Classroom
1. เพื่อเปลี่ยนวิธีการสอนของผู้สอน จากการบรรยายหน้าชั้นเรียนหรือจากผู้สอนไปเป็นครูฝึกทำกิจกรรมอื่นในชั้นเรียนให้แก่ศิษย์เป็นรายบุคคล
2. เพื่อใช้เทคโนโลยีการเรียนที่ผู้เรียนสมัยใหม่ชอบ โดยใช้สื่อ ICT
3. ช่วยเหลือผู้เรียนที่มีงานยุ่ง ดังนั้นจึงต้องเข้าไปช่วยเหลือในการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทสอนที่สอนด้วยวีดิทัศน์อยู่บนอินเทอร์เน็ต ( Internet )
4. ช่วยเหลือผู้เรียนที่เรียนอ่อนให้ขวนขวาย หาความรู้ในชั้นเรียนปกติ ผู้เรียนเหล่านี้จะถูกทอดทิ้ง แต่ในห้องเรียนกลับด้านเด็กจะได้รับการเอาใจใส่จากครูมากที่สุดโดยอัตโนมัติ
5.ช่วยเหลือผู้เรียนที่มีความสามารถแตกต่างกันให้ก้าวหน้าในการเรียนตามความสามารถของตนเอง
6.ช่วยให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนเพิ่มขึ้น เพราะการเรียนในรูปแบบเดิมผู้สอนจะสนใจเพียงคนที่กล้าถามคำถามมากที่สุด แต่การสอนแบบกลับด้านจะช่วยให้ผู้สอนสนใจผู้เรียนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แทนที่จะสนใจเด็กที่มีความมั่นใจอยู่แล้ว
ข้อเสียของ Flipped Classroom
1. นักเรียนขาดความตั้งใจ ความเอาในใส่ในห้องเรียน
2. นักเรียนขาดสมาธิในการทํากิจกรรมได้ง่าย
3. นักเรียนไม่เตรียมตัวก่อนเข้าห้องเรียน ทําให้การเรียนไม่ประสบผลสําเร็จตามเป้าหมาย
4. จําเป็นต้องใช้อุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารให้การค้นหาข้อมูลต่างๆ
5. อุปกรณ์อาจจะไม่พร้อมสำหรับการเรียนรู้ เนื่องจากจะต้องใช้เทคโนโลยีต่างๆในการเรียน
ผู้จัดทำ
ผู้จัดทำ
นางสาวณัฐภรณ์ บุญนะ รหัสนักศึกษา 62030025
นักศึกษาคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
แหล่งที่มาของข้อมูล
- https://ltic.kku.ac.th/home/2020/02/25/flipped-classroom/
- https://www.innohubkku.com/content/12486/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-flipped-classroom-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3
- https://www.pharmscphub.com/2018/06/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3/
- https://prezi.com/p/xdj3qysmrbbi/presentation/
- https://www.aksorn.com/flipped-classroom-1
ห้องเรียนกลับด้าน Flipped Classroom คืออะไร?
ทีมา:https://youtu.be/LYBUJMmqsK4 Flipped Classroom วิธีการเรียนแนวใหม่ที่ฉีกตำราการสอนแบบเดิมๆ เป็นการเรียนแบบ "กลับหัวกลั...
-
ข้อดีของ Flipped Classroom 1. เพื่อเปลี่ยนวิธีการสอนของผู้สอน จากการบรรยายหน้าชั้นเรียนหรือจากผู้สอนไปเป็นครูฝึกทำกิจกรรมอื่...
-
ทีมา:https://youtu.be/LYBUJMmqsK4 Flipped Classroom วิธีการเรียนแนวใหม่ที่ฉีกตำราการสอนแบบเดิมๆ เป็นการเรียนแบบ "กลับหัวกลั...
-
รูปแบบการเรียนแบบ Flipped Classroom ไม่ได้เป็นเรื่องที่ใหม่ แต่เป็นวิธีการสอนที่ใช้มานานหลายแล้ว เช่น การมอบหมายให้ผู้เรีย...